mr. capone ฮิปฮอปสุดดังสัญชาติอเมริกา

mrcaponepic

พูดถึงดนตรีฮิปฮอปแล้ว อเมริกาถือว่าเป็นทั้งต้นกำเนิดของดนตรีแนวนี้ รวมถึงเป็นศูนย์รวมของนักดนตรีแนวนี้ด้วยทั้งแรปเปอร์ และ นักทำดนตรี บีทบ็อกซ์ และอีกมากมาย หากใครสามารถแจ้งเกิดดนตรีฮิปฮอปในอเมริกาได้แล้ว ก็ถือว่าเค้าเป็นตัว    ท็อปของวงการฮิปฮอปชื่อดังของโลกได้เลย วันนี้เราจะพาไปรู้จัก ฮิปฮอป ชื่อดังอีกคนหนึ่งสัญชาติอเมริกานามว่า mr.capone เค้าคนนี้เป็นใคร

ประวัติส่วนตัวของ mr.capone

ข้อมูลส่วนตัวของเค้าเริ่มต้นจากเกิดเมื่อวันที่ 27 เดือนเมษายน ปี 1976 เค้าเกิดที่เวสต์เวอร์จิเนีย แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ตามประวัติบอกว่าเค้าเกิดในปากีสถานก่อนจะย้ายตามครอบครัวไปที่เวสต์เวอร์จิเนีย ในวัยเด็กเค้าเติบโตมาในกลุ่มวัยรุ่นแก๊งค์ที่เรียกตัวเองว่า Sureno ทำให้ตอนเด็กเค้าก็ไม่ธรรมดาโลดโผนมาพอตัวเช่นกัน เคยโดนจำเข้าคุกด้วย แต่นั่นทำให้เค้าเลือกที่จะเดินทางบนถนนดนตรีฮิปฮอปในที่สุด

เส้นทางดนตรีฮิปฮอป

หลังจากตัดสินใจเลือกจะเดินทางบนถนนเส้นนี้ เค้าก็เดินหน้าสร้างผลงานตัวเองออกมาผลงานของเค้าออกมาชิ้นแรกปี 2000 ปรากฏว่าซิงเกิ้ลนี้ได้รับเสียงชื่นชมจากแฟนเพลงเยอะแยะมากมาย ไม่เพียงแค่นั้นความดังของซิงเกิ้ลนี้ทำให้เค้าได้มีโอกาสเซ็นสัญญาเข้าไปในค่ายเพลงชื่อว่า Thump Records ด้วยสัญญา 3 ปี จากสัญญาดังกล่าวทำให้ผลงานชิ้นต่อไปของเค้าชื่อว่า Last man standing กับ Dedicated to the oldies ได้รับความนิยมมากขึ้นไปอีกขายได้มากกว่า 1 ล้านชิ้น ถือว่าเป็นจุดพีคของศิลปินคนนี้เลยทีเดียว จากนั้นเค้าก็มีผลงานเพลงต่อเนื่องมาตลอดจนถึงปัจจุบัน

ปี 2017 ออกซิ้งเกิ้ลทั้งปี

จุดพีคอีกรอบหนึ่งของ mr.capone อยู่ที่ปี 2017 ก่อนจะไปว่ากันเรื่องของเค้า เราขอถามก่อนว่าศิลปินคนหนึ่งจะใช้เวลาเท่าไรในการออกซิงเกิ้ลสักเพลง คำตอบก็คืออย่างน้อยก็ต้องมี 1-2 เดือน แต่ในปี 2017 เชื่อหรือไม่ว่า mr.capone เค้าออกซิงเกิ้ลมาทั้งปีเลย ออกทุกเดือน เดือนละ 1 เพลง มันเป็นอะไรที่อเมซซิ่งมาก แฟนเพลงก็งงเหมือนกันกับแผนการปล่อยเพลงแบบนี้ อย่างไรก็ตาม เพลงที่ปล่อยออกมาเดือนละเพลงทั้งปี 2017 นี้ต่างก็เป็นเพลงที่ดีทั้งนั้นเลย

จุดเด่นงานเพลงของ mr.capone

มาว่ากันที่งานเพลงของ mr.capone กันบ้างอย่างแรกเลยงานเพลงของเค้ามีความหลากหลายมาก แม้ว่าจะเป็นฮิปฮอปก็จริงแต่แนวเพลงที่ทำออกมาก็แตกต่างกันไป บีทของเพลงมีอะไรบางอย่างที่เรายังไม่เคยได้ยินมาก่อนจากศิลปินท่านอื่น เอาแค่เราฟังจังหวะอย่างเดียว เราก็จะรู้สึกสนุกไปตามเพลงด้วยเหมือนกัน ส่วนเรื่องเนื้อเพลงกับแร็ปอันนี้ก็ดี แม้จะเป็นภาษาอังกฤษแต่แร็พของเค้าก็ไม่ได้รัวเป็นปืนกลจนฟังไม่รู้เรื่อง การร้องท่อนแร็ปเป็นจังหวะจะโคนดี ฟังแล้วลื่นหูกว่า

เพื่อนเยอะ ผลงานเพียบ

เราอาจจะได้บอกไปแล้วว่าศิลปินคนนี้มีผลงานเยอะแยะมากมาย อีกทั้งเค้าเริ่มเส้นทางดนตรีฮิปฮอปมานานนั่นทำให้เค้ามีเพื่อนฝูงเยอะมากในวงการนี้ ผลที่ตามมาก็คือ เค้ามีเพลงที่มีคนมาร่วมทำงานด้วย(ฟีทเจอร์ริ่ง) เยอะมากศิลปินทั้งที่ไม่ดัง กำลังดัง ดังอยู่แล้ว ต่างก็เคยทำงานร่วมกับเค้ามาด้วยกันทั้งนั้น ข้อดีก็คือทำให้งานของ mr.capone มีความหลากหลายในเรื่องของศิลปินไปอีก เหมือนเปลี่ยนคู่หูของงานไปเรื่อยๆทำให้คนที่ติดตามก็ได้อะไรใหม่ตามไปด้วย

Mr.capone ถือว่าเป็นรุ่นใหญ่ รุ่นเก๋าในวงการฮิปฮอปอเมริกาเลยทีเดียว ใครที่บอกว่าเป็นแฟนดนตรี ฮิปฮอปแล้วยังไม่ได้ฟังผลงานเค้าอันนี้ต้องลองแล้ว

illslickอีกหนึ่งนักร้องแร๊พที่ดังไปทั่วประเทศ

illslickpiccnew

ดนตรีกระแสหลักในตอนนี้ เชื่อว่า ดนตรีแร๊พ และฮิปฮอฟต้องมาเป็นเบอร์หนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัยเรื่อง ศิลปินดนตรีกระแสนี้มากหน้าหลายตาต่างขึ้นมาเป็นดาวให้กับแฟนคลับได้ติดตามกันอย่างมากมายหลายคน หนึ่งในนั้นก็คือ illslick อ่านว่า อิล สะ ลิค ศิลปินคนนี้หากเราไม่ได้ฟังเพลงอาจจะไม่รู้จักเค้าเลย เพราะเค้าแทบจะไม่ได้รับการโปรโมตจากสื่อหลักเลยด้วยซ้ำแต่ทำไมถึงดังไปทั่วประเทศได้เรามีคำตอบ

Illslick เค้าคือใคร

เรามาว่ากันที่ประวัติของเค้ากับ เด็กหนุ่มคนนี้มีชื่อว่า อิล แต่เป็นชื่อในวงการ ชื่อเดิมของเค้าก็คือ ทิฆัมพร เวชไทยสงค์ ชื่อเล่นว่า โต้ง เกิดเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2529 เดิมทีเกิดที่ขอนแก่นแต่ว่าไปโตที่เชียงใหม่ ก็เลยทำให้เค้าได้ซึมซับอารยธรรมของทางเหนือมามากกว่า จนเค้าเอาเรื่องนี้ไปใส่ไว้ในเพลงของเค้าหลายผลงานด้วยกัน ครอบครัวอยู่กับแม่และน้องสาว

เส้นทางดนตรีของเค้าถือว่าเป็นอีกคนหนึ่งที่มีความกล้าหาญ และชัดเจนกับเป้าหมายมาก เค้ารู้ว่าตัวเองชอบดนตรีแร๊พ ดนตรีฮิปฮอฟมาตั้งแต่เริ่มเข้าสู่วัยรุ่น นั่นทำให้เค้าเริ่มที่ฟังมากขึ้น พอฟังมากขึ้นก็เริ่มที่จะอยากทำเพลง เขียนเนื้อมากขึ้น แล้วก็พัฒนามาสู่การร้องแร๊พจนเข้าประกวดร้องเพลงดังกล่าวในเวทีต่างๆสะสมชื่อเสียงมาเรื่อยๆ

การทำเพลงที่ไม่มีค่าย

หลังจากสั่งสมประสบการณ์มาพอสมควร เจ้าตัวก็มาทำเพลงด้วยตัวเอง กับเพื่อนๆ ไม่ว่าจะเป็นการร้อง การทำดนตรี ทำมิวสิควิดีโอแล้วปล่อยผลงานออกมาผ่านช่องทางออนไลน์ ตอนนั้นต้องบอกว่าไม่มีใครคิดเลยว่า นักดนตรี นักร้องเพลงนอกกระแสตอนนั้นจะสามารถดังได้ด้วยตัวเพลงเองแบบไม่มีใครโปรโมต แต่ illslick แสดงให้เห็นว่าหากเพลงดีจริง ทุกคนก็พร้อมที่จะรับฟัง เปิดใจยอมรับเพลงของเค้าได้ จนกลายเป็นแฟนเพลงในที่สุด

แนวเพลง แนวดนตรี

ต้องบอกว่า illslick เป็นนักดนตรีที่ทำเพลงหลากหลายแนวมาก แม้จะเน้นฮิปฮอฟแต่เนื้อเพลงต่างฉีกแนวออกไปไม่ซ้ำเลย นั่นทำให้คนฟังอาจจะเกิดความรู้สึกว่าเพลงนี้ชอบ เพลงนี้ไม่ชอบ แต่มันคือความหลากหลายที่เค้าค้นหาอะไรใหม่ๆอยู่เสมอ จุดเด่นเพลงของ illslick หาจะให้บอกก็คงเป็นเนื้อหาที่ใช้คำง่ายๆ ตรงๆ ชัดเจนแบบไม่ต้องแปลความอะไรมาก บางท่อนอาจจะมีการเปรียบเทียบให้ดูงงหน่อยแต่ถ้าเข้าใจมันจะเป็นอะไรที่แสบสันต์ แสบไปถึงทรวงเลยทีเดียว รวมถึงจะมีวลีท่อนคำ ท่อนฮุค เด็ดๆที่วัยรุ่นฟังแล้วต้องชอบ ต้องพูดกันติดปากต่อกันในกลุ่มเพื่อน ส่วนดนตรี illslick จะมีการผสมผสานกันหลายแบบเพื่อให้ได้เสียง ได้จังหวะใหม่เกิดขึ้นให้คนฟังอยากฟังเพลงของเค้าต่อ

ผลงานที่น่าตามไปฟัง

Illslick มีผลงานมากมายที่เค้าทำออกมา เจ้าตัวเคยให้สัมภาษณ์ในรายการหนึ่งว่า เค้าต้องทำเพลงเหมือนกับชีวิตประจำวันของเค้า เหมือนการกินอาหารแบบนั้นเลย นั่นทำให้เค้ามีผลงานเพลงออกมาเยอะมากหากเทียบกับช่วงเวลาในวงการนี้ ถ้าถามว่าอยากให้เลือกผลงานที่ทำให้ illslick ดังไปทั่วประเทศ ก็จะมีเพลง รักเมียที่สุดในโลก เพลงที่บ่งบอกถึงความรัก ความคิดถึง ความสุขของคนมีเมีย เพลงจูบ เพลงที่ให้ความรู้สึกถึงความรักโรแมนติค เพลงนี้เค้า feat. กับหนึ่ง ETC ด้วย อีกเพลงที่ผู้เขียนบอกเลยว่าชอบเป็นพิเศษ ชื่อว่า บอกฉัน บอกเลยว่าใครอกหัก หรือเห็นแฟนเก่ากำลังจะแต่งงานอย่าได้ฟังเชียว อาจจะมีน้ำตาซึมได้เลยเอาจริง ลองหาเพลงเหล่านี้ได้ในยูทูป

จิรายุทธ ผโลประการ เขาคือใคร

UrboyTJ picture

ศิลปินแร็พหลายคน พวกเค้ามักจะใช้ชื่อในวงการเพื่อนำเสนอตัวตนของตัวเองออกมาก เรามักจะได้ยินเค้าพูดว่า a.k.a. ตามด้วยชื่อที่พวกเค้าตั้งเอง จนบางครั้งทำให้เราไม่รู้เลยว่าชื่อจริง นามสกุลจริงของพวกเค้าเป็นใครมาจากไหน วันนี้เราจะพาไปรู้จักอีกหนึ่งศิลปินชื่อดังที่หลายคนอาจจะไม่รู้ประวัติเค้าสักเท่าไร

จิรายุทธ ผโลประการ เขาคือใคร

ชื่อจริง นามสกุลจริงด้านบนที่ว่ามานี่ เชื่อว่าถามคนที่ติดตามวงการเพลงเองก็เหอะ น้อยคงที่นึกออกว่าใครแบบไม่กดดูจากกูเกิ้ล สำหรับนามของเค้าในวงการเพลงก็คือ Urboy TJ เพียงแค่นี้ทุกคนรู้เลยว่าเรากำลังพูดถึงศิลปินแร็พเปอร์ชื่อดังที่มีผลงานมากมาย รวมถึงตอนนี้ได้เป็นโค้ชในการแข่งขันร้องเพลงแร็พเปอร์รายการหนึ่งในทีวี ประวัติของเค้าแบบง่ายเกิดเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ.2535 เป็นคนกรุงเทพโดยกำเนิด ชื่อเล่น(จริงๆ) เต๋า ด้านการศึกษาเรียนระดับมัธยมโรงเรียนมาเรียลัย และจบระดับอุดมศึกษาจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ

ผลงานก่อนออกเดี่ยว

อันนี้ก็เชื่อว่า คนที่ติดตามศิลปินช่วงยุคกามิกาเซ่ อาจจะนึกออก แต่ถ้าไม่ได้ติดตามเป็นหลักแค่ฟังผ่านๆอาจจะนึกหน้าของหนุ่มคนนี้ไม่ออก ตอนนั้นเค้ามีผลงานร่วมกับเพื่อนอีกสองคน(ป๊อปปี้และกวินท์) ในนาม ทรี.ทู.วัน มีเพลงดังชื่อว่า แค่ที่รัก เพลงนี้กลายเป็นเพลงประจำของวงที่ไม่ว่าจะไปเล่นคอนเสิร์ตที่ไหนต้องร้องประจำ รวมถึงอีกเพลงหนึ่งชื่อว่า รักต้องเปิด(แน่นอก) เพลงนี้เชิญลูกทุ่งหญิงสุดแซ่บอย่าง ใบเตย อาร์สยาม มาร่วมฟีตเจอร์ริ่งด้วย ปรากฏว่าดังมากจนกลายเป็นเพลงประจำตัวของ ใบเตย อาร์สยามไปเลย(ซะอย่างนั้น) หลังจากประสบความสำเร็จและอิ่มตัวกับงานเพลงทุกคนต่างก็แยกย้ายออกไปทำเพลงของตัวเอง

Urboy TJ

จากความสามารถด้านการร้องแร็พดีเป็นทุนเดิม รวมกับความสามารถในการเขียนไรม์ ทำเพลง สร้างจังหวะทำนองเองมาตั้งแต่รวมทีมกับเพื่อนกลุ่ม ทรี ทู วัน ทำให้ ทีเจ สมาชิกของวงหลังจากยุบวงแล้วก็ออกมาทำเพลงตามแนวทางของตัวเอง เปลี่ยนชื่อใหม่ว่า Urboy TJ ออกซิงเกิ้ลแรกชื่อว่า เค้าก่อน ได้รับความนิยมพอสมควร เมื่อรวมกับภาพลักษณ์ของเจ้าตัวที่แสดงตัวตนออกมาเต็มที่ ทำให้เพลงต่อมาของเค้าเริ่มได้รับความสนใจมากขึ้นตามลำดับ มาดังเป็นพลุแตกจริงก็เพลง วายร้าย

ก้าวขึ้นสู่โค้ช

จากความสามารถทั้งร้อง แต่งเพลง แต่งทำนอง ทำซาวด์ โปรดิวซ์ นั่นทำให้เค้ากลายเป็น แร็พเปอร์ ที่มีความสามารถมากคนหนึ่ง รอบตัวขนาดนี้ต้องซูฮกเลย จนเค้าได้รับเชิญก้าวขึ้นมาเป็นโค้ชของการแข่งขันแร็พเปอร์ทางทีวีถึง 2 ซีซั่นทีเดียวถือว่าเป็นอีกหนึ่งศิลปินที่ตั้งใจทำงาน จนอยากให้ดูเป็นแบบอย่างกันเลยทีเดียว

ความสำเร็จอันยั่งยืนของฮิพฮอป

Hip Hop's Sustainable Success

เชื่อว่าคืนวันจันทร์ของใครหลายคนหากไม่ติดละครเรื่องอะไรอยู่ การได้ดูเวทีแข่งขันร้องเพลงแร็ปทางรายการทีวีช่องหนึ่งนับว่าเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่แย่งเรตติ้งมาได้จนละครต้องมองค้อนทีเดียว นั่นเป็นผลพวงหนึ่งจากความดังของดนตรีฮิพฮอปที่ตอนนี้เค้าก้าวขึ้นมาเป็นดนตรีกระแสหลักเคียงคู่กับ ป็อป ร็อกได้อย่างน่าชื่นชม อะไรทำให้ฮิพฮอประสบความสำเร็จมาได้ถึงทุกวันนี้

จากใต้ดิน สู่บนดิน

ต้องยอมรับ การนำเข้าเพลงฮิพฮอปนั้น เดิมทีเป็นหนึ่งในแนวเพลงใต้ดินที่นักร้อง นักดนตรีหลายคนอาจจะได้รับอิทธิพล วัฒนธรรมดนตรีแนวนี้มาจากตะวันตก จากอเมริกเป็นหลัก ซึ่งการทำใต้ดินนั้นข้อดีก็คือมันทำให้เพลงมีความอิสระมากกว่าจะสดใสวัยรุ่น หรือจะด่าหยาบคายจนหม่นหมองก็ทำได้ แต่ข้อเสียก็คือผู้ชมที่ติดตามนั้นจะอยู่อย่างจำกัด ต้องเป็นคนที่เปิดใจยอมรับวัฒนธรรมนี้จริง แต่พอดนตรีฮิพฮอปเริ่มมีการเอาขึ้นมาร้องอย่างจริงจังขึ้นมาบนดิน อย่างเช่น ดาจิม โจอี้บอย ไทเทเนียม ก็ทำให้คนฟังเริ่มขยายวงกว้างมากขึ้น รวมถึงแนวดนตรีก็หลากหลายมากขึ้นไปด้วย

ไม่ได้มีดีแค่หยาบคาย

คนที่ฟังเพลงแร็พใต้ดินมาก่อน อาจจะติดภาพว่าเพลงแนวนี้จะต้องเป็นเพลงสะท้อนสังคม เป็นเพลงด่าทอด้วยความรุนแรง หยาบคาย ดูเหมือนนักเลง แก็งค์สเตอร์ มาเฟียประมาณนี้ แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย เราสามารถตีความสิ่งที่เราต้องการสื่อด้วยเพลงแร็พที่มันไม่ต้องใช้คำรุนแรง หยาบคายก็ได้ เราสามารถแต่ท่อนแร็พที่สวยงาม เนื้อหาดีก็ได้ ซึ่งช่วงหลังศิลปินที่สร้างชื่อขึ้นมาจากแร็พพวกเค้าแร็พแบบไม่ใช่คำหยาบคายเลย นั่นทำให้คนฟังเปิดกว้างมากขึ้น

ความสำเร็จของเวทีแบทเทิล

อีกหนึ่งความสำเร็จที่ผลักดันให้ ฮิพฮอปประสบความสำเร็จมากขึ้น นอกจากศิลปินบนดินแล้ว เวทีใต้ดินก็มีการปรับรูปโฉมตัวเองใหม่ ที่ยังคงความเป็นใต้ดินแต่ไม่ได้รุนแรงมากนัก อย่างเช่น เวทีการประกวดแร็พแบทเทิล ที่จะนำแร็พเปอร์มาร้องสดด่าทอฝ่ายตรงข้าม แน่นอนว่าความรุนแรงในคำพูด ลีลา ท่าทาง น้ำเสียง ยังมีอยู่ตามสไตล์แร็พใต้ดิน แต่การจัดงานที่สื่อออกไปทำให้เห็นว่า ทุกอย่างอยู่แค่บนเวทีเท่านั้น ไม่ได้มีการทำร้ายอะไรกันเลย(เหมือนการต่อสู้ที่ดูรุนแรงแต่พอจบเกมก็จับมือกัน) นั่นทำให้คนกล้าที่จะเสพฮิพฮอปมากขึ้น

ฮิพฮอปไม่มีสูตรตายตัว

ต่อยอดจากเวทีใต้ดิน ก็ขึ้นมาเวทีบนดิน ทีนี้แหละมาถึงปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ฮิพฮอปสำเร็จได้แบบยั่งยืนนั่นก็คือ ฮิพฮอปแบบไม่มีสูตรตายตัว กล่าวคือ เราสามารถเอาความเป็นฮิพฮอปไปผสมกับอะไรก็ได้ จะร็อค ป็อป โซล อาร์แอนด์บี ลูกทุ่ง หรือแม้แต่มิวสิคัล ก็ทำกันมาแล้ว นั่นทำให้ฮิพฮอปกระจายตัวขึ้นไปอีก รวมถึงเวทีที่เปิดโอกาสให้คนเข้ามาร่วมสนุกกับฮิพฮอปได้หมด นั่นแหละจะทำให้ฮิพฮอปกลายเป็นดนตรีที่ทุกคนเสพได้ สร้างท่อนไรม์ ท่อนแร็พได้ในแบบของตัวนี้ ตรงนี้แหละที่จะทำให้ฮิพฮอปกลายเป็นแนวดนตรียอดนิยมไปอีกนานทีเดียว

มาทำความรู้จัก แชมป์ The Rapper Season 1

“IRON BOY” หนุ่มน้อยวัย 19 ปีสมาชิกทีม Twopee Southside ของโค้ชโต้ง ผู้คว้าแชมป์ในรายการ The Rapper Season 1 ถือว่าเป็นหนุ่มมากฝีมือที่เอาชนะผู้เข้าแข่งขันที่ไม่ธรรมดาทั้ง 5 คน และชิงเงินรางวัลไปกว่า 1 ล้านบาท พร้อมกับฉายา “แชมป์ เดอะแร็ปเปอร์” คนแรกของประเทศไทย

ชื่อจริงของหนุ่มคนนี้คือ นาย ศิริศักดิ์ เลขวัฒนะโรจน์ ชื่อเล่นว่า “เอนัน” เขาได้พิสูจให้ตัวเองให้คนทั้งประเทศเห็นเป็นที่เรียบร้อย จากการเลือกใช้เพลง “รางวัลแด่คนช่างฝัน” เพื่อนำมาใช้เป็นบทเพลงสื่อถึงความยากลำบากในชีวิตของเขาในอดีต กว่าที่จะมาถึงจุดนี้ได้ต้องโดนหลายคนดูถูกต่างๆนาๆ แถมคนรอบข้างยังไม่คิดที่จะสนับสนุนความฝันในการเป็นแร็ปเปอร์อีกต่างหาก

แต่วันนี้ฝันของของเขาได้เป็นจริง เขาได้ให้คนรอบตัวที่เคยดูถูกเขาต้องตะลึงกับความสำเร็จในครั้งนี้ ทำให้ชื่อ IRON BOY ได้กลายเป็นตำนานและถูกจารึกในประวัติศาสตร์การแข่งขังเดอะแร็ปเปอร์อย่างเป็นทางการ รวมถึงในอนาคตยังมีค่ายเพลงที่คอยจะสนับสนุนเขาอีกเพียบ

ทักษะสายสับของ IRON BOY

เราได้เห็นทักษะของเขาครั้งแรกเมื่อได้ออดิชั่นด้วยเพลง “น้ำลาย” ของวงในตำนานอย่าง Silly Fools ความเร็วที่เขาแรปออกมานั่นเรียกได้ว่าน่าทึงอย่างมาก ในความเร็วเรายังคงฟังออกถึงทุกคำที่เขาพูดออกมาอย่างชัดเจน ทำเอาหลายๆคนประทับใจอย่างมากโดยเฉพาะกรรมการและโค้ช สไตล์การร้องของ IRON BOY มักจะถูกเรียกอีกอย่างว่า “สายสับ” เป็นคำนิยามสำหรับแรปเปอร์ที่เน้นความเร็วเป็นหลัก

ถึงแม้ว่าการแข่งขันเขาจะต้องเจอกับรุ่นใหญ่หลายคนอย่าง P-Hot มันก็เป็นอะไรที่สนุกสำหรับคนดู แต่อาจจะเสียเปรียบสำหรับ IRON BOY เพราะยังเด็กและขาดประสบการณ์ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่จะพ่ายแพ้ไปในที่สุด แต่ด้วยความสู้ของเขาที่แสดงออกมาให้ทุกคนเห็นว่าเขาไม่ยอมแพ้ ทำให้โค้ชโต้งได้ถึงกับโยนหมวกเพื่อเอาตัวเขาไปฝึกต่อในทีม เราจึงเห็นเขาได้โลดแล่ดพร้อมกับขัดเกลาฝีมืออยู่ในรายการ The Rapper เรื่อยมา

นอกจากการแข่งในรายการ The Rapper แล้ว IRON BOY ยังเป็นที่ชื่นชอบและนิยมในวงการฮิปฮอปใต้ดินอีกด้วย รวมถึงได้เข้าร่วมแข่งขันต่อสู้ประชันดุเดือดอีกหลายรายการที่เราอาจไม่เคยเห็น แถมยังมีเพลงของตัวเองที่ตอนนี้มียอดวิวเกือบ 40 ล้านวิวเข้าไปแล้ว ส่วนหนึ่งก็เป็นผลมาจากกระแสจากรายการ The Rapper นั่นเอง อย่างไรก็ตามถึงไม่มีรายการนี้ เราก็ชื่อว่าอนาคตของเขาจะไปได้ไกลไม่แพ้กันเลย

ไทยเทเนี่ยมกับประวัติที่คุณยังไม่รู้มาก่อน!!

วันนี้เราจะมาพูดถึงวงฮิปฮอปสายเลือดไทยที่แนวเพลงนั้นเป็นสไตล์แนวๆอเมริกันอย่างวง ไทยเทเนี่ยมกันนะครับ วงนี้มีสมาชิกทั้งหมด 3 คน คือ ขัน, เดย์ และเวย์ ก่อนจะตั้งวง ไทยเทเนี่ยมขึ้นมานั้น ซัน เวย์ จูเนียร์ และโจอี้บอย ได้ก่อตั้งวง AA CREW ขึ้นก่อนจะแยกย้ายกันไปตามเส้นทางของใครของมันตอน 2002 โดยช่วงนั้นได้มีสมาชิก 1 ใน 3 ได้มีความสัมพันธ์กับสาวสวยที่ชื่อ ไบโอนี่

ขัน หรือขันเงิน ถือสัญชาติไทยโดยเกิดที่กรุงเทพมหานคร ส่วยเดย์นั้นเกิดที่จังหวัดเชียงใหม่ ส่วนเวย์ ซึ่งเป็นผู้ที่มีอายุน้อยสุดเติบโตขึ้นที่ประเทศอเมริการัฐ นิวยอร์ก โดย 3 สิ่ง หรือ 3 สถานที่ที่แตกต่างกันมาผสมผสานกันให้กลายเป็นเพลงที่ฮิตฝนปัจจุบันอย่างลงตัว อย่างที่พวกคุณได้เคยฟังกันมาก่อน

ขันและเดย์เป็นผู้ที่สนิทกันมาก ซึ่งทั้งคู่ได้ไปเรียนต่อในเชิงการทำดนตรีอย่างจริงจังโดยทั้งคู่นั้นได้ทำงานร่วมกันโดยได้จัดรายการคู่หูดูโอ้ขึ้นเป็น DJ/MC ซึ่งเป็นการจัดแนวๆปาร์ตี้ แนวสนุกครึกครื้น หลังจากที่เรียนจบทั้งคู่ ได้มีแรงบัลดานใจอยากสร้างเพลง โดยได้ทำอัลบั้มแรกชื่อ ขัน-ที เป็นเพลงแนวฮิปฮอปและขันก็ได้ไปรู้จักกับเวย์ที่ช่วงนั้นกำลังมีการทำเพลงแนวๆเดียวกันอยู่ หลังจากนั้นขันและเวย์ก็ได้สนิทกับเหมือนกับพี่น้องเลยทีเดียว

จากนั้นในปี 2000 ที่ New York ไทเทเนี่ยมได้กำเนิดชุดที่ 2 ขึ้นโดยตั้งชื่ออัลบั้มว่า Thai Riders จากนั้นแนวเพลงสไตล์ฮิปฮอปก็ได้รับความนิยมขึ้นมาเรื่อยๆ จนได้จดสัญญาการมีค่ายกับ GMM Grammy ขึ้นในที่สุด โดยใช้ชื่อว่า สนามหลวง ในตอนนั้น

ปัจจุบันทั้ง 3 คนก็ได้แยกย้ายกันไปทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ และเดินตามฝันของตัวเอง ซึ่งทุกคนล้วนแล้วแต่ประสบความสำเร็จระดับสูงสุดของชีวิตและยังคงร่วมกันสร้างเพลงแนวๆฮิปฮอปที่เป็นสไตล์อเมริกันอยู่ตลอดเวลา

วงการฮิปฮอปไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก

ปัจจุบันนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเพลงฮิปฮอปนั้นเป็นที่ผู้คนให้ความสนใจติดท๊อปของวงการเพลงไทยตอนนี้ ด้วยการชื่นชอบในแนวเพลงจึงส่งผลไปถึงด้านการเต้น และการแต่งตัวตามศิลปินที่ชื่นชอบ ซึ่งตอนนี้วงการฮิปฮอปไทยนั้นมีศิลปินที่มีฝีมือในการร้องยอดเยี่ยมระดับพรีเมี่ยมเลยทีเดียว บางคนถึงขั้นได้ไปมีชื่อเสียงในต่างประเทศ แต่ละคนนั้นมีโปรไฟล์ที่ไม่ธรรมดาเลย นอกจากที่ไทยจะมีแร๊พเปอร์ที่มีความสามารถแล้ว เพลงแร๊พของไทยก้อไม่แพ้ใครเหมือนกัน วันนี้เราจะพาพวกคุณมารู้จักแร๊พเปอร์ชั้นแนวหน้าของเมืองไทย และเพลงไทยเพลงไหนที่มีคนสนใจมากที่สุดบ้าง

7 สุดยอดแร๊พเปอร์ชื่อดังของเมืองไทย

  1. พี่โจ้ โจอี้ บอย หรืออภิสิทธิ์ โอภาสเอี่ยมลิขิต คนนี้นับว่าเป็นเจ้าพ่อแร๊พเปอร์ของเมืองไทย โจอี้ บอยไม่ได้มีดีแค่ร้องเพลงอย่างเดียว ยังมีความสามารถอีกหลากหลายอย่างที่เขาทำได้เช่น เล่นละคร โค้ชรายการดัง รวมไปถึงการเป็นผู้บริหารค่ายเพลงชื่อดัง
  2. ไทยเทเนี่ยม (Thaitanium) กลุ่มแร๊พเปอร์ชื่อดัง ที่ผลิตเพลงฮิปฮอปสไตล์อเมริกันมีเพลงติดหูมากมาย มีเพลงฮิตเป็นร้อยเพลง รวมถึงยังมีค่ายเพลงเป็นของตัวเองอย่าง Thaitanium Entertainment แถมตอนนี้ยังมีเพลงที่ดังเป็นพลุแตกในต่างประเทศอีกด้วย
  3. กอล์ฟ ฟักกลิ้ง ฮีโร่ หรือณัฐวุฒิ ศรีหมอก คุณพ่อแร๊พเปอร์ของน้องชูใจ ผู้สร้างผลงานมากๆ เพลงที่เขาเขียนนั้นส่วนมากจะเป็นแนวเพลงที่สร้างขึ้นมาเพื่อสะท้อนสังคม เพลงทุกคนที่เขาขับร้องเป็นเพลงที่ล้วนมีความหมาย ใครได้ฟังจะถูกเพลงของเขากลืนกินใจไปโดยไม่รู้ตัว
  4. บุดด้า เบลส (Buddha Bless) วงฮิปฮอปขวัญใจวัยโจ๋ ที่ถูกขนานนามว่าเป็นวงฮิปฮอปที่คนให้ความสนใจติดอันดับต้นๆ ของประเทศ
  5. ดาจิม หรือสุวิชชา สุภาวีระ แร๊พเปอร์ที่ดังมาจากเพลงแร๊พใต้ดินที่ทำเพลงจนประสบความสำเร็จ ดาจิมเป็นนักร้องที่คนยุค 90’ ใครไม่รู้จักถือว่าเชยมาก
  6. ทูพี เซาท์ไซด์ (Twopee Southside) หรือพิทวัส พฤกษกิจ แร๊พเปอร์สุดหล่อจากแดนใต้ที่หน้าตาดีมาก มีผลงานมากมายเช่น ไหวอะเปล่า เบเบ้ แถมเขายังมีรางวัลการันตีความสามารถเป็นแชมป์ MC 2สมัยอีกด้วย
  7. ปู่จ๋านลองไมค์ หรือพิษณุ บุญยืน แร๊พเปอร์ชาวล้านนาที่หวังจะเอาเพลงฮิปฮอปมาสืบสานศิลปะความเป็นไทย ด้วยการเอากาพย์กลอนมาแต่งเป็นเพลงมีลักษณะเพลงที่ไม่ซ้ำใคร

เพลงฮิปฮอปที่คนให้ความสนใจมากที่สุด

  • OG-ANIC x LAZYLOXY – เป็นไรไหม (COVER BY POOHPN)
  • OG-ANIC รู้ทั้งรู้ ALL-KNOW COVER ป๋อมแป๋ม ณิชาภัทร
  • THE OLD i$E (CD GUNTEE & DAWUT) – MICROPHONE (ไมโครโฟน)
  • ILLSLICK – ถ้าเธอต้องเลือก
  • ILLSLICK – จูบ Remix Feat. หนึ่ง ETC

10 เพลงแร๊ปสากลที่ทั่วโลกให้ความสนใจ

main-the-rapper-thailand

แร๊ป คือการพูดแบบเดียวกับกลอนที่เอามาลงทำนองของจังหวะเพลง ส่วนใหญ่แล้วจะเอามาใช้กับเพลงจังหวะเร็ว ซึ่งเพลงแร๊ปเป็นเหมือนวัฒนธรรมอย่างหนึ่งของฮิปฮอป ลักษณะของแร๊ปเป็นการที่ร้องเพลงคล้ายกับพูด เนื้อหาที่แต่งออกมานั้นจะมีลักษณะออกไปทางเสียดสีสังคม เพศ และสิ่งเสพติด ในส่วนของทำนองเพลงนั้นจะเอามาประกอบกับดนตรีที่มาจากกลองอิเล็กทรอนิกส์ ต้นกำเนิดของเพลงแร๊ปนั้นมาจากชาวจาเมกา เริ่มลงจังหวะครั้งแรกเมื่อคริสต์ทศวรรษ 1970

วันนี้เราจะมาแนะนำเพลงฮิปฮอปหรือแร๊ป 10 เพลงที่ทั่วโลกให้ความสนใจมากจะมีเพลงอะไรบ้างนั้นมาดูกันได้ที่นี่ และตอนนี้เลย

No Broken Hearts เป็นเพลงฮิตติดหู ผลงานของ Bebe Rexha เด็กผู้หญิงมหัศจรรย์ที่ไม่ได้มีพรสวรรค์แค่การร้องเพลงอย่างเดียว เธอยังมีความสามารถในด้านการแต่งเพลง และโปรดิวเซอร์อีกด้วย ความสามารถล้นหลามจริงๆ เพลงนี้จะมีจังหวะที่สนุกมาก แค่เปิดเบาๆ ก็เหมือนถูกต้องมนต์ให้ขยับตัวไปเองได้อย่างไม่รู้ตัว
Marmalade (feat. Lil Yachty) เพลงที่ทำให้โยกตัวตามจังหวะเพลงได้เหมือนถูกสะกด เพลงนี้เป็นเพลงของ Macklemore ถือว่าเป็นเพลงที่มีคุณภาพจริงๆ
Sun Comes Up (feat. James Arthur) เพลงนี้เป็นเพลงของ Rudimental เพลงที่ได้ฟังแล้วคิดถึงบรรยากาศพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้า หรือไม่ว่าจะนอนหรือทำอะไรอยู่ก็สามารถฟังได้เพลินๆ ได้ตลอดเวลา
2U (feat. Justin Bieber) ผลงานเพลงของ David Guetta ใครที่เบื่อๆ ไม่รู้จะฟังเพลงฮิปฮอปแนวไหนถ้าลองได้ฟังเพลงนี้จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่บนห้วงอวกาศ ฟังแล้วสบายใจ
Galway Girl เพลงของ Ed Sheeran เป็นอีกเพลงที่เป็นจังหวะที่คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจ เป็นจังหวะสนุกๆ ที่คนฟังสามารถคล้อยตาม และสบายใจทุกครั้งที่ได้ฟัง
Cold Water (feat. Justin Bieber & MØ) ของ Major Lazer เพลงที่อิตมากในผับหรือบาร์ ด้วยที่จังหวะที่เต้นได้อย่างสุดเหวี่ยง โยกไปได้ทุกทำนองทุกท่อนของเพลง
Symphony (feat. Zara Larsson) ผลงานของ Clean Bandit เพลงที่สามารถบรรเทาอารมณ์ได้เป็นอย่างดี ใครที่อารมณ์เสีย อารมณ์ไม่ดี ฟังเพลงนี้จะทำให้คุณรู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก
WHEN LOVE TAKES OVER เพลงจังหวะแนวเฮาล์ของ DAVID GUETTA เพลงฮิตมากมายที่ติดชาร์ตอันดับต้นๆ ของเพลงสากล
It Ain’t Me เพลงที่สามารถฟังได้ทั้งวัน ฟังได้ยาวๆ ของ Kygo, Selena Gomez เป็นเพลงที่ถูกแต่งขึ้นมาจากเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่เหมือนมีมนต์สามารถทำให้คนที่ฟังนั้นเกิดความสนุกสนาน จนต้องโยกตามจังหวะแบบไม่รู้ตัว
Ain’t My Fault เพลงของ Zara Larsson มักได้ยินบ่อยในปาร์ตี้งานเลี้ยงเล็กๆ ในบรรยากาศชิลล์ คนที่ได้ยินเพลงนี้จะรูปสึกถึงบรรยากาศช่วงฤดูร้อน ฟังแล้วอยากไปเที่ยวทะเลแบบสุด

เพลงฮิปฮอปไม่ได้เป็นเพลงที่สร้างขึ้นมาเพื่อเสียดสีสังคม ฟังเพื่อความสะใจอย่างเดียว แต่เพลงฮิปฮอปยังสามารถทำให้คนที่ได้ฟังเกิดความรู้สึกสบายใจ ผ่อนคลายและรู้สึกสนุกสนานทุกครั้งที่ได้ฟัง ฮิปฮอปเป็นสไตล์เพลงที่ฮิตกันทุกยุค ทุกสมัยฟังเมื่อไหร่ก็ไม่มีเบื่อ

วงดนตรียุคใหม่ UrboyTJ ที่หลายคนชื่นชอบ

หากพูดถึง Rapper หนุ่มของเมืองไทย ผู้มีการแต่งตัวเป็นเอกลักษณ์สไตล์เท่ๆของตัวเอง รวมทั้งมีรอยสักสุดเท่ทั่วร่างกาย ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นพลุแตก จนคนรู้จักทั่วบ้านทั่วเมืองเมื่อไม่นานมานี้ ก็คงหนีไม่พ้น Rapper หนุ่ม อดีตสมาชิกวง 3.2.1 หรือ TJ นาย จิรายุทธ ผโลประการ ซึ่งเขาได้พลิกผันมาทำผลงานเดี่ยวหลังจากวง 3.2.1  เลิกรากันไปนอกจากงานเบื้องหน้าที่เราเห็นๆกันดีอยู่แล้ว TJ ก็ยังเก่งในงานเบื้องหลังอีกเช่นกัน ไม่ว่าจะแต่งท่อนRap  เรียบเรียงเพลง รวมทั้งแต่งทำนองให้กับเพลงของตัวเองและเพลงของศิลปินคนอื่นด้วย เช่น Waii , Faye Fang Kaew,  K-otic เป็นต้น เพลงแรกซึ่งเขาปล่อยออกมาในอัลบั้มเดี่ยว คือเพลง เค้าก่อน ซึ่งมีเนื้อหาเจ็บๆแต่ก็มีกลิ่นอายเฉพาะตัวฟังแล้วติดหู จนมันกลายเป็นเพลงฮิตโด่งดังไปทั่วประเทศ หลังจากนั้น TJ ก็ส่งเพลง เอาดีดีดิ และ วายร้าย มาสานต่อความโด่งดังอีกรอบ จากเพลงที่ฟังแล้วติดหู บวกกับน้ำเสียงการ Rap อันมีเอกลักษณ์ จึงทำให้ Rapper หนุ่มคนนี้ได้ความรับความนิยมอย่างมากในปีที่ผ่านมา

นาย จิรายุทธ ผโลประการ ชื่อเล่น TJ หรือตอนนี้เราจะคุ้นในชื่อ UrboyTJ  ลืมตาดูโลกวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2535 ในอดีตเป็นนักร้อง สมาชิกวง3.2.1   มีผลงานที่โด่งดังเป็นที่รู้จักอย่าง รักต้องเปิดแน่นอก Featuring กับใบเตย ภายหลังจากหมดสัญญากับ ค่าย R.S  เขาจึงได้พลิกผันมาเป็น Rapper อย่างเต็มตัว ภายใต้ชื่อ UrboyTJ มีผลงาน Single ซึ่งเป็นที่ติดหูรวมทั้งฮิตไปทั่วเมืองอย่าง เค้าก่อน และ วายร้าย

TJ อดีตสมาชิกวง 3.2.1 อายุ 24 ปี หลังจากหยุดการทำงานแบบศิลปินกลุ่ม เขาก็เริ่มต้นเส้นทางดนตรีครั้งใหม่ ที่เป็นแบบของตัวเอง คือแนว R&B/Hip Hop ที่มีความเป็น Pop สไตล์คนไทยใส่เข้าไปด้วย นอกจากนี้ TJ ยังลงมือทำด้วยตนเองทุกขั้นตอนแบบศิลปินไร้สังกัด ในนาม UrboyTJ จนมี Single ฮิตติดหู รวมทั้งได้รับการตอบรับจากแฟนๆอย่างล้นหลาม อีกทั้งยังสามารถติดชาร์ตคลื่นวิทยุอีกด้วย

TJ จบการการศึกษาจาก

สาขาวิชาBusiness English วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

รับเชิญไปแสดงใน MV

  • แสดงใน MV เพลง ฉันเป็นแฟนเธอแล้ว ของ WAII
  • แสดงใน MV เพลง ไม่รักเธอ ของ WAII
  • แสดงใน MV เพลง รักแท้จะตามหาเธอ (Destiny) ของ KamiKaze
  • แสดงใน MV เพลง ภาพติดตา (flashback) ของ Black Jack
  • ร่วม Featuring เพลง ฉันเป็นแฟนเธอแล้ว ของ WAII

 

ผลงานด้านพิธีกร

  • พิธีกร รายการ KamiKaze C channel

ถูกรับเชิญไปออกรายการ

  • The Face Men Thailand ช่วง Master Class

 

PMC ปู่จ๋าน ลองไมค์ Rapper หน้าใหม่ของเมืองไทย

ที่ผ่านมาเรารู้จักมักคุ้นกันดีกับชื่อ ปู่จ๋าน ลองไมค์ Rapper หน้าใหม่ของเมืองไทยซึ่งถูกจับตามองอยู่ในขณะนี้ เขามีชื่อจริงว่า นาย พิษณุ บุญยืน ผู้มาจากจังหวัดเชียงราย ปู่จ๋าน คนนี้มีการร้องไม่เหมือนใคร คือใช้ท่อน Rap นำขบวนก่อนแล้วแล้วค่อยร้องเพลงตาม ปู่จ๋าน เป็นเพียงแค่ชื่อในวงการเพลงเท่านั้น โดยตัวเขาก็ยังเป็นคนหนุ่มมีอายุน้อย ทางด้านเพลงของเขานั้นก็สร้างกระแสฮือฮา ความโด่งดังเป็นอย่างมากใน Youtube ส่งผลให้มีคนร่วมแชร์เพลงของเขามากมาย จากเสียงร้องอันเป็นเอกลักษณ์ในแบบของตัวเอง อีกทั้งยังแหวกแนว แถมแฝงไปด้วยข้อคิด จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เพลงของจะได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพลงของเขานั้นแต่งเอาไว้หลายเพลง ที่ดังๆก็เช่น ตราบธุลีดิน ในปัจจุบันกลายมาเป็นเพลงฮิตติดหูไปโดยปริยาย

แต่กว่าที่เขาจะก้าวขึ้นมายังจุดนี้ได้ชีวิตของ ปู่จ๋าน เริ่มต้นมาจากความรันทด ในอดีตเขาเป็นเด็กบ้านนอก เรียนไม่จบ ทำงานเป็นแค่ช่างซ่อมแอร์ , ช่างติดจานดาวเทียม แต่ใครจะรู้ว่าด้วยความหลงใหล บ้าคลั่ง ในเสียงเพลงบวกกับความพยายามในการสร้างโอกาสให้ตัวเอง ทำให้วันนี้เขากลายเป็น Rapper ชื่อดัง มีสไตล์การร้องอันโดดเด่น

จากการที่กระแสของเพลงผ่าน Youtube ยอดวิวเพลงตราบธุลีดินถล่มแหลกกว่า 100 ล้านวิว  จึงทำให้ ปู่จ๋าน เติบโตกลายเป็นที่รู้จักในวงการดนตรีอย่างกว้างขวาง  ล่าสุดออกเพลงใหม่ ชื่อ แลรักนิรันดร์กาล เป็นอีกหนึ่งเพลงซึ่งมียอดวิวพุ่งทะลุเพดาน ซึ่งเพลงนี้เป็นเพลงที่ สายป่าน อภิญญา โทรมาขอให้ปู่จ๋านช่วยแต่งเพลงประกอบ MV  โปรเจคเรียนจบของเธออีกด้วย

โดย ปู่จ๋าน ได้เปิดเผยในรายการเจาะใจ ว่าพอตนเริ่มมีชื่อเสียง แน่นอนว่าชีวิตก็เปลี่ยนไป ในช่วงแรกๆ ก็มีอาการหลงตัวเองรู้สึกว่า เรากำลังจะดังแล้ว  มันเข้ามาพร้อมกันทุกอย่างทั้งเรื่องงานเรื่องเงิน จนพยายามมานั่งตั้งสติว่า กรคิดแบบนี้มันจะทำให้ตนเสียได้ เนื่องจากปู่จ๋านเคยเสียคนมาแล้ว ถ้าครั้งนี้มาพลาดอีก มันก็จะกลับตัวลำบาก เลยพยายามบอกตัวเองว่า อย่า  อย่างทุกวันนี้หาเงินได้เท่าไหร่ก็ให้แม่เก็บหมดเลย ใช้ชีวิตเหมือนเดิมทุกวัน ถ้าวันไหนไม่มีงานก็กลับบ้านไปอยู่กับพ่อแม่

จากเด็กเกเรธรรมดาคนหนึ่งซึ่งเคยใช้ชีวิตแบบเสเพล จนวันนี้เขาได้พิสูจน์ตัวเอง จนได้ก้าวสู่วงการบันเทิงในฐานะนักร้อง ชื่อดังนับเป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดาและน่ายกย่องจริงๆ